ก่อนดีลบริษัทรับทำบิ้วอิน เราควรจะรู้อะไรบ้าง

บริษัทรับทำบิ้วอิน

•ว่ากันด้วยเรื่องรับทำบิ้วอิน

ใกล้จะสิ้นปี2021 แล้ว ไหนใครที่ ได้รับความเปลี่ยนแปลงอะไรจากตลอดทั้งปีกันมาบ้าง บางคนอาจได้บ้านใหม่ หรือกำลังสร้างบ้านเอง หรือบางคนอาจจะมีธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามา มีร้านใหม่และแน่นอนว่าเวลามีอะไรใหม่ ๆ ก็ต้องได้รับการดูแล อย่างเช่น การหาบริษัทที่รับทำบิ้วอิน ถือว่าเป็นอะไรที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับการเริ่มต้นของใครบางคนที่มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรืออะไรก็ตามแต่ที่ต้องสร้างใหม่ เราจึงจำเป็นที่จะต้องหาบริษัทรับทำบิ้วอินแบบดี ๆ มาโดยเฉพาะ เพื่อที่จะได้ออกแบบและดีไซน์สามารถบิ้วอินงานของเราได้เป็นอย่างดี ราบรื่น และสำเร็จในที่สุด

แต่หากว่าเราเจอบริษัทรับทำบิ้วอินที่ไม่ดี ไม่สามารถเชื่อใจในความปลอดภัย หรือความสวยงามได้ ก็อาจเป็นเรื่องที่ฟังดูแย่ เพราะการที่เราเริ่มต้นสิ่งใหม่นั้น การเริ่มต้นจะต้องเป็นอะไรที่ดีและแข็งแรง สามารถอยู่กับเราไปได้นาน ๆ โดยปลอดภัยและสวยงามสมดังใจ การเลือกบริษัทรับทำบิ้วอินดี ๆ นั้นจริงเป็นอะไรที่สำคัญมากหากฟังเพียงปากต่อปากอาจจะได้ข้อมูลที่ไม่แน่ชัด ในวันนี้เราเลยจะมาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจของคุณให้ง่ายขึ้นอีกระดับ เราจะมาดูทริคกันว่าบริษัทรับทำบิวอินแบบไหนที่เราสามารถเชื่อใจและไว้วางใจได้ให้เขามาบิ้วอินให้เรา ไปดูกันเลย

•ทริคการดูบริษัทรับทำบิ้วอิน ก่อนที่เราจะตัดสินใจดีล

ทริคการดูบริษัทรับทำบิ้วอินดี ๆ มีหลายวิธีมากแต่ในวันนี้เราจะพาไปดูทริดเล็ก ๆ น้อยว่าควรดูอย่างไรกันบ้าง

  • 1 ดูว่าบริษัทที่เราเลือกนั้นมีหน้าตาตัวอย่างผลงานที่ทำไว้เป็นอย่างไร ตรงกับกับสไตล์งานของเราไหมเพราะ บริษัททุกบริษัทมีความถนัดในแต่ละด้านไม่เหมือนกัน อย่างเช่นเราต้องการงานที่ Modern แต่ เราให้บริษัทที่ทำงาน Loft หรือ Industrial มาทำงานไม่ใช่ว่าบริษัทเหล่านั้นจะทำให้เราไม่ได้ บริษัทเหล่านั้นก็สามารถทำให้เราได้เช่นกัน แต่จะยุ่งยากในการหาวัสดุหรือสิ่งต่างๆในการทำ
  • 2 ดูเกรดวัสดุที่แต่ละบริษัทแต่ละที่นั้นใช้ เพราะทุกๆอย่างบนโลกนี้ มีทั้งของถูกและก็ของแพงแม้จะมีลักษณะสินค้าที่คล้ายคลึงกันก็ตามแต่เกรดวัสดุที่ใช้นั้นก็จะลดหลั่นตามราคาที่วางขาย เฟอร์นีเจอร์จำพวกบิ้วอินก็เช่นเดียวกัน บางบริษัทใช้สินค้าเกรดไม่ค่อยดีเพื่อที่จะทำให้ราคานั้นถูกลงแต่เราต้องแลกด้วยคุณภาพของมันที่จะถูกลดตามไปในอนาคตหรือเสียก่อนเวลาอันสมควรจนเราต้องเสียเงินใหม่ในที่สุด แต่ใช่ว่าบริษัทที่รับทำของแพงเนื่องจากเกรดวัสดุที่ใช้ไม่สมกับราคาที่เราต้องเสียไปเพราะฉะนั้นเราควรที่จะต้องเลือก บริษัทที่ใช้ของเกรดที่มีคุณภาพและราคาไม่สูงมากเกินไปจะดีที่สุด
  • 3 ดูบริษัทได้ไปขอใบอนุญาติจากสภาสถาปนิก หรือไม่เพราะบริษัทเหล่านี้ได้ถูกขัดกรองจากสภาสถาปนิกไปแล้วรอบหนึ่ง ทำให้เราสามารถอุ่นใจได้มากขึ้นว่าจะสามารถทำงานของเราให้ออกมาดีได้แต่ใช่ว่าผู้รับเหมาอิสระนั้นที่ไม่ได้ขอใบอนุญาติสภาสถาปนิกนั้นจะแย่เสมอไป เพราะบางคนที่เป็นผู้รับเหมาอิสระก็สามารถทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ
  • 4 เป็นบริษัทที่มีผลงานที่แสดงให้เห็นเป็นรูปธรรม เพราะถ้าเกิดบริษัทเหล่านั้นได้ทำงานมาจริง ๆ แล้วเขาจะต้องมีตัวอย่างผลงานที่ชัดเจนและสามารถให้เราดูได้ นี่ก็เป็นอีกหนึงตัวเลือกที่เราควรจะใช้ในการประกอบการตัดสินใจ เพราะถ้ามีตัวอย่างผลงานแสดงว่าเคยทำงานจริง ไม่มีทางทำไม่ดีแน่นอนเพราะถือว่าเป็นหน้าตาของบริษัท
  • 5 ได้มีสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนเอกสารเหล่านี้สำคัญมาก เพราะจะเป็นตัวชี้วัดว่าเราจะไม่ถูกบริษัทเหล่านี้ทำงานไม่มีคุณภาพ หรือทำงานล่าช้าให้กับเรา และอย่างแย่สุดก็คือการที่ถูกบริษัทนั้นโกง เพราะถ้าไม่มีเอกสารเหล่านี้จะทำให้เมื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทนั้นได้ และทำให้เราได้รับเงินคืนในส่วนนั้น โดยเอกสารสำคัญๆที่บริษัทที่เราเลือกต้องมีก็คือ

-สัญญาว่าจ้าง

-เอกสารรายงานการประกอบแบบ(spec book ) -เอกสารแสดงปริมาณงาน(BOQ) เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดในคุณภาพสินค้าแลทุกอย่างที่เรากล่าวมาข้างต้นจะถูกต้องตามแบบที่เราต้องการและเป็นการเช็คงานในรอบสุดท้ายอีกที

  • •ไม่ต้องรีบ ของแบบนี้ต้องค่อย ๆ ดู

สุดท้ายนี้ไม่มีใครที่ไม่อยากได้ของที่ไม่มีคุณภาพเพราะฉะนั้นเราจึงเป็นสื่อกลางที่จะทำให้ทุกคนได้รู้เข้าใจในวิธีการเลือกบริษัท เพื่อที่จะได้เจอบริษัทที่ดีตามแบที่เราหวังอย่างถึงที่สุดหรือเข้าชมได้เลยที่นี่ https://www.usfurnish.com/built-in/